สวัสดีค่ะ ผู้หญิงกับ “ขน” เนี่ย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันไม่ได้อยู่แล้วเนอะ ไม่ว่าจะเป็นขนแขน ขนขา หรือแม้แต่ขนรักแร้ ล้วนแต่เป็นปัญหาที่ผู้หญิงเราพยายามต่อสู้มาตลอดในประวัติศาสตร์ 55555 มีนเองก็มีปัญหาเรื่องขนมาตลอดชีวิตเช่นกันค่ะ เพราะได้รับพันธุกรรมมาจากคุณแม่ (แม่ มีนก็ไม่ได้อยากจะโทษแม่หรอกนะ แต่หลักฐานมันฟ้อง ขนแม่เยอะกว่าขนมีนอีก 555555) โดยเฉพาะที่ขา อื้อหือ ยังกะขานักฟุตบอลชายทีมชาติ >__< ขนทั้งเยอะ ทั้งเส้นหนา ทั้งยาว บอกตรงๆ ว่าเป็นปัญหากวนใจมาตลอดชีวิตเลยละค่ะ
ถ้าพูดถึงเรื่องการกำจัดขนแล้ว มีนมั่นใจมากว่าตัวเองเป็นคนหนึ่งที่ผ่านการทดลองมาแล้วทุกวิธี ตั้งแต่การโกน ถอน แว็กซ์ร้อน แว็กซ์เย็น ใช้ครีมกำจัดขน หรือแม้แต่เลเซอร์ แต่ส่วนของหน้าแข้งนี่ยังไม่เคยเลเซอร์ค่ะ เพราะอะไรน่ะหรอคะ? หึหึ แพงไงคะ!! สมัยก่อนเราก็เป็นนักศึกษา มีเงินเลเซอร์ขนราคาครึ่งแสนซะที่ไหนกันล่ะ (ไม่ต้องสมัยก่อนหรอก ถ้าราคานี้ สมัยนี้ก็ไม่มี 55555) แถมวิทยาการสมัยนั้นก็ยังไม่ค่อยก้าวหน้า เป็นเลเซอร์แบบเก่า ต้องทำหลายครั้ง ทั้งเจ็บ ทั้งแพง กว่าขนจะหมด เลยได้แต่มองตาปริบๆ แล้วก้มหน้าก้มตาแว็กซ์ขนต่อไป
แต่วันนี้ค่ะ มีนมีโอกาสได้ไปลองเลเซอร์กำจัดขนถาวรด้วยนวัตกรรม GentleYAG ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ Dr.Tattof เค้ามีให้บริการ ลองแล้วเป็นยังไง ชอบมั้ย วันนี้มีนมารีวิวให้อ่านกันแล้วค่ะ
จริงๆ แล้ว Dr.Tattof เค้าไม่ได้ให้บริการแค่เลเซอร์กำจัดขนถาวรเท่านั้นนะคะ เค้ายังมีบริการลบรอยสักอีกด้วยแหละ แต่มีนเองไม่ได้มีรอยสักอะไร ก็เลยขอผ่านค่ะ ทำแค่ขนก็พอ ซึ่งสาขาที่มีนไปรับบริการครั้งนี้คือ ชั้น 3 เซ็นทรัลพลาซ่าลาดพร้าวค่ะ เดินไปที่โซนคลินิกความงาม จะมีซอยที่สามารถเชื่อมกับลานจอดรถ พอเข้าซอยมาก็จะเจอกับ Dr.Tattof อยู่ทางขวามือเลยค่ะ
กดเปิดประตูเข้ามา ก็จะเจอกับเคาน์เตอร์อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นบริเวณนั่งรอค่ะ Dr.Tattof สาขานี้ขนาดไม่ได้ใหญ่ เล็กกระทัดรัด มีห้องเลเซอร์แค่ 2 ห้องเท่านั้นค่ะ แต่ถึงขนาดจะไม่ได้ใหญ่อะไร แต่การตกแต่งนี่คือ elegent มากค่ะ โลโก้สีดำสนิทตัดกับหินอ่อนสีขาว ดูแพงจริงๆ
วันนี้มีนมาถึงตรงเวลาตามที่นัดไว้ เมื่อมาถึงก็แจ้งชื่อกับเจ้าหน้าที่ เค้าก็ให้ใบประวัติมากรอก ก่อนที่จะพบคุณหมอและเริ่มทำเลเซอร์ค่ะ
ในระหว่างนั่งรอ แอบเหลือบไปเห็นโล่วางอยู่ เค้าบอกว่า Dr.Tattof เป็นคลินิกแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งเครื่อง PicoWay Laser ค่ะ (บอกตรงๆ คือเครื่องอะไรก็ไม่รู้แหละ 55555 แต่การใช้เป็นเจ้าแรกก็ฟังดูเหมือนจะไฮเทคและทันสมัยกว่าใครล่ะนะ)
รอแค่ประมาณ 1-2 นาที พนักงานก็เรียกเข้าห้องเชือดค่ะ 55555 บอกตรงๆ ว่ามีนไม่เคยลอง GentleYAG มาก่อน ตื่นเต้นมากกกก ใจนึงก็รู้สึกน่าสนุก อีกใจก็ไม่รู้ว่ามันจะเจ็บมั้ย แอบกลัวนิดๆ เหมือนกันค่ะ (แต่เพื่อขาเรียวงามไร้ขน ต้องลองสักตั้ง!)
ห้องเลเซอร์ก็ขนาดเท่าที่เห็นในภาพค่ะ สิ่งที่มีนชอบคือมันมีความเป็นส่วนตัวดี พอเข้าไปแล้วก็สำรวจใหญ่เลย 5555555 แอบเห็นชั้นวางของ มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกว่า เค้าใส่ใจเรื่องความสะอาดและอนามัยกับลูกค้าพอสมควรเลย (อย่างน้อยก็มีถุงมือ สำลี และแอลกอฮอล์แหละ)
หันมาอีกด้าน เจอเครื่อง GentleYAG ตั้งนิ่งอยู่ สำหรับมีนมันดูเหมือนเพชฌฆาตนิดๆ ด้วยแหละค่ะ ประมาณว่า เจ้านี่สินะที่กำลังจะมาจี้ขาเรา 5555555
พูดถึงเจ้าเครื่อง GentleYAG นี่แล้ว หลังจากที่มีนไปโดนมันมาเรียบร้อย ก็กลับบ้านมาหาข้อมูลเพิ่มค่ะ เค้าบอกว่าเครื่องนี้ ชื่อเต็มๆ คือ GentleYAG Pro U เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นสูง จึงผ่านลงไปใต้ผิวได้ลึกกว่าเลเซอร์แบบอื่นๆ (แน่นอน มันก็เลยแก้ปัญหาผิวได้มีประสิทธิภาพมากกว่า) แถมเครื่องนี้ยังเป็นนวัตกรรมใหม่ มีเทคโนโลยี DCD ซึ่งเป็นการปล่อยแก๊สเย็นออกมาก่อนการยิงเลเซอร์ ช่วยปกป้องผิวจากการเกิดผลข้างเคียงอย่างอาการไหม้ด้วยค่ะ (มีนไม่เคยทำ GentleYAG มาก่อน เลยไม่รู้ แต่เข้าใจว่ารุ่นก่อนๆ ไม่มีตัวนี้ค่ะ ตอนทำจะรู้สึกได้เลยว่าเครื่องมันฉีดละอองเย็นๆ ออกมาก่อนที่แสงเลเซอร์จะยิงขาเรา)
จุดเด่นโดยรวมของ GentleYAG Pro U
- ทำลายรากขนได้ลึกและมีประสิทธิภาพ
- หลังการรักษาครั้งแรก ปริมาณขนจะลดลง 20-40% แปลว่าทำเพียง 4 ครั้งก็กำจัดขนได้ถาวร
- กำจัดขนได้ทุกส่วนของร่างกาย (ทั้งขนเส้นใหญ่และเล็ก) และใช้ได้กับคนทุกสีผิว
- ไม่ทำลายรูขุมขน
- สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
เอาละค่ะ พูดเรื่องเครื่องมาเยอะแล้ว กลับมาที่ขาของมีนกันต่อ 555555 อันดับแรก มาดูเส้นขนก่อนเลเซอร์กันค่ะ
ในรูปอาจจะดูเหมือนเส้นขนไม่หนามาก เพราะกล้องมันปรับให้ละมุน (ค่ะ นี่ละมุนแล้ว T__T) แต่ของจริงนี่คือ ทั้งหนาทั้งยาวนะคะ
พอจะเริ่มทำเลเซอร์ ตอนแรกมีนก็คิดว่าเค้าจะยิงเลย แต่เปล่าค่ะ สิ่งแรกที่เค้าทำคือ “โกนขน” ค่ะ มีนเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ 55555 (บอกแล้วว่าไม่เคยทำ) ก็เขินนิดๆ ค่ะ พนักงานบอกว่าถ้าโกนขนให้สั้นลง แบบเป็นตอๆ เครื่องจะจับขนได้ดีกว่าค่ะ เลยอ๋อๆ เข้าใจแล้ว เดี๋ยวครั้งหน้ามาจะโกนมาจากบ้านนะคะ พี่จะได้ไม่ต้องลำบาก ฮือ (นี่ก็กลัวมันทำไม่ได้ไง เลยเลี้ยงมาซะยาวเลย อายมั้ยล่ะ)
โกนขนเสร็จแล้ว เหลือเป็นตอสั้นๆ แบบนี้ค่ะ
จากนั้นพนักงานก็ใช้เจลประคบเย็นที่ขาค่ะ เพื่อให้ผิวของเราเย็น นอกจากจะลดความรู้สึกเจ็บ แสบร้อนแล้ว ยังลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงอีกด้วยค่ะ ประคบเย็นอยู่ประมาณ 5 นาที บอกเลยว่า ขาแข็ง หนาวมาก 55555 ในระหว่างนี้พนักงานก็หันไปตั้งค่าเครื่องเพชฌฆาต เสียงดัง ปี๊บๆๆ ตื่นเต้นไปอีกกกก
เมื่อขาเริ่มชาแล้ว พนักงานก็เริ่มยิงเลเซอร์เลยค่ะ
ตัวเลเซอร์ก็แบบในภาพเลยค่ะ ที่ยิงจะมีแสงสีเขียวๆ แผ่ออกมาเป็นวงกลม มีนเข้าใจว่าคงไว้บอกพิกัด ว่าบริเวณไหนจะถูกแสงเลเซอร์ยิง พอพนักงานเค้าเล็งได้ที่แล้ว เค้าก็จะกดปุ่มยิงเลเซอร์ค่ะ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที 555555 เร็วมาก เสมือนดีดหนังยางใส่ขาเรา แสงเลเซอร์ที่ออกมาจะเป็นสีออกชมพูๆ ม่วงๆ แวบขึ้นมาแวบเดียวแล้วก็เสร็จเลย โดยก่อนหน้านั้น (ซึ่งเอาจริงๆ คือแทบจะพร้อมกันนั่นแหละ มันเร็วมาก) จะรู้สึกได้ว่าเครื่องมันปล่อยไอบางอย่างออกมา ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นละอองเย็นๆ ออกมาที่ผิว (เจ้านี่แหละ ที่มารู้ทีหลังว่าชื่อ DCD)
หลังจากเสี้ยววินาทีของแสงเลเซอร์ผ่านไป สิ่งที่จะรู้สึกได้คือ ความร้อน และกลิ่นไหม้ค่ะ (บางบริเวณถึงกับมีควันลอยขึ้นมาเบาๆ 55555) แต่ปรากฏว่ามีนไม่รู้สึกเจ็บเลยค่ะ!!! คือมันก็มีบางจุดแหละที่รู้สึกได้ว่า เฮ้ย ร้อน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเฉยมาก เฉยมากจริงๆ สามารถนอนอ่านโคนันได้เลยอ่ะ 55555 — ซึ่งอันนี้มีนไม่ได้การันตีนะคะว่าทุกคนจะรู้สึกเหมือนกันหมด เพราะการทนต่อความเจ็บของคนเรามันไม่เท่ากัน บางคนทนได้มาก บางคนทนได้น้อย เอ๊ะ หรือผิวหนังมีนด้านหว่า 55555
พอทำขาด้านหน้าเสร็จ ก็พลิกตัว ทำด้านหลังต่อค่ะ เฉยขนาดไหนคิดดู ถึงกับยกกล้องขึ้นมาแอบเซลฟี่เล่น 55555 ยิ้มแฉ่งเลย มีนไม่เจ็บจริงๆ ค่ะ
ยิงๆ อยู่ประมาณ 10 นาที จนทั่วขาทั้งสองข้างก็เป็นอันเสร็จค่ะ และนี่คือสภาพขนหลังจากโดนพลังทำลายล้างของ GentleYAG เข้าไป บางเส้นหงิกงอไปเลยค่ะ
หลังจากเลเซอร์เสร็จแล้ว พนักงานก็เอาครีม (หรือยา!?) อะไรไม่รู้มาทาที่ขาให้ค่ะ มีนไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แต่ว่าจะช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการแสบแดงค่ะ
หลังจากนั้นก็ออกมาพบคุณหมอ เลยขอคุณหมอถ่ายรูปร่วมกันซะหน่อย (คุณหมอแอบหล่อนะคะ น่ามาใช้บริการอีกจังเลยค่ะ คิคิ)
คุณหมอใจดีมากเลยค่ะ ให้ยา (หรือครีม!?) ตัวเดิมกลับมาทาที่บ้านด้วยแบบฟรีๆ เลยค่ะ เค้าบอกว่าเผื่อมันมีอาการแดง ก็ให้ทาเฉพาะบริเวณที่แดง ไม่ต้องทาทั้งขาค่ะ (แต่มีนไม่พบอาการนั้นค่ะ เลยยังไม่ได้ใช้เลย)
นอกจากนี้ยังได้รับคำแนะนำเรื่องการดูแลด้วยว่า
- หลังจากที่ทำ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 3 วัน หรือถ้าจำเป็นต้องไปข้างนอกก็ให้ทาครีมกันแดดด้วย
- สามารถทาครีมได้ตามปกติ
- เราจะยังเห็นขนติดอยู่ ซึ่งมันจะค่อยๆ หลุดออกไปเอง อย่าไปดึงเล่น
- การรักษาครั้งต่อไป ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ (แต่มีนนัดไว้เดือนหน้าเลย)
สำหรับการไปเลเซอร์ขนครั้งแรกนี้ บอกเลยค่ะว่า “ประทับใจ” ทุกอย่างโอเคหมด เหลือแต่ผลลัพธ์ที่เราต้องมารอดูกันต่อไปว่าจะออกมาเป็นยังไง ขนขามีนจะถูกกำจัดได้หมดหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ To be continued… 5555555 (เดี๋ยวมีนก็จะมาอัพเดทผลการรักษาในนี้แหละค่ะ รอชมกันนะค้า)
ปล. ลืมบอกไปค่ะ สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลของทางคลินิกได้ที่ https://www.facebook.com/dr.tattof/ หรือ http://drtattof.com/ นะคะ (เห็นพนักงานพูดว่าช่วงนี้มีโปรซื้อคอร์ส 5 ครั้งแถม 3 ครั้ง สำหรับการกำจัดขนหนวด, รักแร้ และหน้าแข้งค่ะ ราคาสอบถามพนักงานเอาเน้อ)
UPDATE ผลลัพธ์หลังเลเซอร์ครบ 3 ครั้ง
กลับมาอัพเดทผลลัพธ์ให้ตามสัญญาแล้วนะคะ หลังจากที่มีนไปเลเซอร์ขนหน้าแข้งครบ 3 ครั้ง มาดูสภาพขนขาของมีนกันค่ะ
หลังจากที่ทำเลเซอร์ครบ 3 ครั้ง มีนพบว่าขนที่ขามีนยังขึ้นอยู่ค่ะ คือมันยังไม่เห็นผลขนาดที่ว่าขนหายหมดเลย เพียงแต่ว่าขนที่ขึ้นมาใหม่นี้เส้นเล็กและบางลงมากจนแทบมองไม่เห็น คือถ้ามองผ่านๆ ก็แทบไม่เห็นเลยว่ามีขน แต่ถ้าใครมาเพ่งใกล้ๆ ดูก็จะเห็นว่ายังมีขนอยู่นั่นเอง (ซึ่งในชีวิตจริงก็คงไม่มีใครมานั่งส่องขาเราอ่ะเนอะ 555555)
ซูมให้ดูสภาพเส้นขนชัดๆ ค่ะ จะเห็นว่ายังมีอยู่เยอะเลยล่ะค่ะ แต่เส้นเล็กมาก ซึ่งถ้าใครอยากให้รากขนตายหมดแบบไม่เหลือเลยจริงๆ ก็คงต้องทำต่อ อาจจะซัก 5-8 ครั้งตามคำแนะนำของคลินิกค่ะ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพขนดั้งเดิมของแต่ละคนด้วยนะคะ อย่างมีนสภาพขนตอนแรกคือเส้นหนาเหมือนขนผู้ชาย ก็เลยต้องทำหลายรอบหน่อยค่ะ)
เทียบกับสภาพขนเริ่มต้นก่อนเริ่มทำเลเซอร์ให้ดูอีกครั้งค่ะ (โฟกัสที่ขนนะคะ เรื่องความขาวไม่เกี่ยวกับเลเซอร์ค่ะ แสงไฟคนละที่เฉยๆ) สรุปว่าการทำเลเซอร์ 3 ครั้งสำหรับสภาพขนของมีนคือยังไม่มากพอที่จะทำให้ขนหายไปหมดค่ะ ถ้าอยากให้หายเกลี้ยงจริงๆ ต้องทำต่อ แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากแล้วจริงๆ ค่ะ ขนสั้นลง เส้นเล็กและบางลง มองไกลๆ แทบไม่เห็นแล้วค่ะ (พูดง่ายๆ คือในที่สุดก็มีขนหน้าแข้งในระดับของผู้หญิงทั่วไปแล้ว จากที่เมื่อก่อนเป็นแข้งนักฟุตบอลชายมาโดยตลอด 55555)
ใครสนใจก็ลองไปสอบถามรายละเอียด ทั้งเรื่องการทำ จำนวนครั้งที่ต้องทำ และราคาได้ที่คลินิกนะคะ ส่วนมีนจะทำต่อมั้ย ต้องบอกเลยค่ะว่าเท่าที่ได้ตอนนี้สำหรับมีนคือพอใจมากแล้ว แต่ถ้ามีโอกาส (และทรัพย์ 55555) ก็อาจจะไปทำเพิ่มอีกให้ขนหายหมดค่ะ 🙂
Sponsored by
Meanniek* 